ชู “INDEX NEXTPERIENCE 2022” ปั้นยอดโต 10% ทุ่มงบ 480 ล้านขยายสาขา รีโนเวต-ปรับปรุงเครื่องจักร

“อินเด็กซ์” กางแผน INDEX NEXTPERIENCE 2022 มุ่งสร้างประสบการณ์ชอปตอบโจทย์ยุค Next Normal ชูกลยุทธ์ Collaboration Marketing ประเดิมจับมือ ‘วู้ดดี้’ ปั้นแบรนด์ ‘DREAMIA’ หมอนนวัตกรรมใหม่ เจาะกลุ่ม Health Conscious หนุนสินค้าเครื่องนอนโต 20% พร้อมทุ่มงบ 480 ล้านบาท ขยายสาขา รีโนเวตสาขา ปรับปรุงเครื่องจักร และระบบไอที ตั้งเป้าปีนี้รายได้ 8,200 ล้านบาทโต 10%

น ส.กฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้อินเด็กซ์ฯ กำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 65 ภายใต้วิสัยทัศน์ INDEX NEXTPERIENCE 2022 เน้นสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้าในทุกมิติตอบรับกับอินไซต์ของผู้บริโภคยุค Next Normal ทั้งช่องทางออฟไลน์ ออนไลน์ และเพื่อขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ INDEX NEXTPERIENCE 2022 อินเด็กซ์ฯ ได้นำกลยุทธ์ Collaboration Marketing ผนึกความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ๆ โดยในไตรมาสแรกนี้จะประเดิมความร่วมมือในรูปแบบ Collaboration กับคุณวู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา ในการร่วมสร้างแบรนด์ “DREAMIA” หมอนไฮบริด เพื่อรองรับตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพ ซึ่งปัจจุบันมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ยังเป็นการเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสินค้าที่นอนและเครื่องนอนของอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ให้หลากหลาย ซึ่งในปี 63 กลุ่มสินค้าดังกล่าวเติบโตถึง 16%

 

“อินเด็กซ์ฯ วางแผนด้านการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ของแบรนด์ DREAMIA โดยนอกจากการได้ร่วม Collaboration
กับคุณวู้ดดี้ เพื่อทำการตลาดร่วมกันแล้ว ยังได้ทุ่มงบประมาณกว่า 20 ล้านบาท เพื่อสื่อสารให้ผู้บริโภคได้เห็นถึงความสำคัญของการเลือกใช้หมอนที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพการนอนผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยคาดว่า แบรนด์ DREAMIA จะช่วยผลักดันยอดขายในกลุ่มสินค้าเครื่องนอนให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง”

 

น.ส.กฤษชนก กล่าวว่า จากแนวโน้มสัญญาณการฟื้นตัวของอสังหาฯ และมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดว่าตลาดที่อยู่อาศัยจะมีดีมานด์เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา เพื่อรองรับความต้องการเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ ของตกแต่งบ้าน ในปีนี้ อินเด็กซ์ฯ จะใช้งบลงทุน 480 ล้านบาทในการขยายธุรกิจ โดยจะใช้งบ 220 ล้านบาท ในนการเปิดสาขาใหม่ทำเลย่านลาดกระบัง และจะใช้งบ 185 ล้านบาท ในการรีโนเวตสาขาเดิม ขณะเดียวกัน จะมีการปรับปรุงเครื่องจักรในโครงการซึ่งจะใช้งบ 30 ล้านบาท และจะใช้งบ 45 ล้านบาทในการพัฒนาระบบไอที

นอกจากนี้ ยังวางแผน Diversify ไปยังธุรกิจที่มีความ Synergy กับธุรกิจหลัก เพื่อสร้างความหลากหลายให้ธุรกิจ หรือขยายธุรกิจที่มองว่ายังมีช่องทางการทำตลาดเพื่อต่อยอดสร้างรายได้เสริมความแข็งแกร่งและตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งบ้านอย่างครบวงจรอีกด้วย โดยปัจจุบันได้ลุยเปิด Korean Supermarket ภายใต้ชื่อ SEOUL U MART รวม 2 สาขาตั้งแต่ปลายปี 64 ทั้งนี้จากการกำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจของอินเด็กซ์ฯ ในปีนี้ ภายใต้วิสัยทัศน์ INDEX NEXTPERIENCE 2022 รวมถึงการนำกลยุทธ์ในด้านต่างๆ มาขับเคลื่อนการดำเนินงาน จะสามารถผลักดันยอดขายได้ตามเป้าหมายที่กำหนด โดยตั้งเป้าการเติบโตในปี 65 ไว้ที่ 10% คาดการณ์ยอดขายรวม 8,200 ล้านบาท

อ้างอิง
https://m.mgronline.com/stockmarket/